27 พฤศจิกายน 2553

เคล็บลับในการร้องเพลง

สวัสดีค่ะ  เพื่อนๆ  ชาวไทย-ฟรี  ที่รักทุกท่าน
             วันนี้ rakter มีเรื่องดี-ดี มาบอกต่อค่ะ  สำหรับเพื่อนๆ  ที่ชื่นชอบและสนใจเรื่องการร้องเพลง  บทความนี้จะเป็นประโยชน์มากๆ  ค่ะ  เริ่มกันเลย...


เคล็ดลับการร้้องเพลง

การร้องเพลงให้เพราะ  ข้อสำคัญจะต้องมีอารมณ์สอดแทรกความรู้สึกให้ได้กับเนื้อหาของเพลง  มีใจรัก  ปล่อยใจ  ปล่อยอารมณ์ ให้ตัวเบา
  • การออกเสียงจะต้องสบาย ๆ ถ่ายทอดความรู้สึก  เราควรสอดแทรกและสื่อความหมายของเพลงให้แก่ผู้ฟัง  ถ้าเราปล่อยความรู้สึกของเราตามความหมายของเสียงเพลง  ผู้ฟังจะเข้าใจ  เช่น  เพลงเศร้า  จะต้องให้เศร้า  เสียใจ  นั่นแหละจึงจะประสบความสำเร็จ  ถ้าร้องไปโดยไม่คำนึงถึงความหมาย  เราก็จะไม่สามารถเข้าถึงหัวใจเขาได้ 
  • นอกจากนี้เราต้องรักษาระดับเสียงสูงต่ำขึ้นลงให้ได้อีกด้วย  ก่อนอื่น เราต้องฝึกเสียงให้ผ่านจากลำคอไปถึงท้อง  ต้องร้องแบบเปิดลำคอ  จุดนี้ต้องให้ความรู้สึกโล่งที่สุด  เหมือนกับโทรโข่งที่รับเสียงแล้วก้อง  ไม่มีสิ่งใดมากีดขวาง  ร้องเพลงอย่างมีความสุข สบาย ๆ ไม่ใช่ว่ารู้สึกเหนื่อยเวลาขึ้นเสียงสูง  เพราะคนฟังก็จะรู้สึกอย่างนั้นไปด้วย 
  • ทักษะในการร้องเพลงต้องสูดหายใจลึก ๆ การออกเสียงเสมือนกับการดื่มน้ำหรือการรับประทานอาหาร  ซึ่งต้องผ่านลำคอลงไปโดยไม่ติดคอ  จึงจะเป็นการร้องเพลงที่ถูกต้อง
  • การออกเสียงเหมือนการทวนกระแส  เสียงสูงเราต้องทิ้งเสียงให้ลงไปข้างล่าง    เช่น การตะโกนเรียงคนที่อยู่ไกล ๆ หรือตะโกนข้ามภูเขาของชาวเขา  เป็นต้น 
  • ส่วนเสียงต่ำจะเป็นการเก็งและตะเบ็งออกให้ขึ้นที่สูง  แต่จะต้องมีพลังและก้องกังวาลแบบเสียงระฆัง  ดังนั้นเสียงสูงจึงเปรียบได้กับเสียงระฆัง  และเสียงต่ำเปรียบเหมือนเสียงกลอง 
       การร้องเพลงเป็นการฝึกการพูดของเราเหมือนกัน  บางคนพูดแล้วจะรู้สึกเหนื่อย  ผู้ที่มีปัญหาเรื่องหลอดลมหรือปอด  หายใจไม่ทัน  ถ้าได้ฝึกร้องเพลงแล้วฝึกให้ถูกต้อง  จะเป็นการช่วยให้สุขภาพดีขึ้น  เป็นการฝึกการบริหาร  แต่ต้องฝึกให้ถูกวิธี  จึงต้องออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย  ลักษณะของการออกกำลังกายจะมีการหายใจเข้าและหายใจออกเหมือนกับการร้องเพลง  ดังนั้นผู้ที่ร้องเพลงได้ดีส่วนมากจึงออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย  ผลพลอยได้คือ  สุขภาพร่างกายแข็งแรง  ชะลอความแก่ได้  ดังสุภาษิต  ที่ว่า  "ยิงปืนนัดเดียวได้ นกสองตัว"  เพราะร้องเพลงได้ดีขึ้น  และสุขภาพยังแข็งแรงขึ้นอีกด้วย


ที่มา : http://www.jobpub.com/articles/showarticle.asp?id=593

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

:: ข่าวประจำวัน ::